เทศน์เช้า

สมบัติธรรม

๒o ก.ค. ๒๕๔๔

 

สมบัติธรรม
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

เทศน์เช้า วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๔๔
ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

วันพระ สมบัติเราหาเอง สมบัติของเรานะ นี่เราอุตส่าห์ขวนขวายขึ้นมา สมบัติของธรรม ธรรมคือหัวใจ หัวใจมันจะได้อะไรเป็นประโยชน์ของมันบ้าง? ถ้ามันได้เป็นประโยชน์ของมัน มันก็จะทำให้เรามีหลักเกณฑ์ของเรา ถ้าเราไม่มีหลักเกณฑ์ของเรา

แล้วหัวใจเป็นนามธรรม สิ่งที่เป็นนามธรรมนี่มันกินเรื่องนามธรรมเป็นอาหาร บุญกุศลมันก็เป็นนามธรรม พอนามธรรมมันเข้าถึงใจไง บุญกุศล...เพราะมันมีการกระทำ เหมือนเปิดประตูบ้าน เปิดประตูบ้านออกมาเท่าไหร่ อากาศมันเข้าออกเสมอกัน

นี่ความคิดเหมือนกัน ถ้าเราไม่มีการสละออกไป มันไม่มีทานออกไป มันไม่มีอะไรเข้ามา สิ่งที่ไม่เข้ามา สมบัติเดิมที่เราใช้อยู่นี่เป็นสมบัติเดิม สมบัติเดิมคือว่าเราเกิดขึ้นมานี่มีวาสนาพาเกิดนะ ถ้าไม่มีวาสนาพาเกิด ใจธรรมชาติของมันมันต้องเกิดของมันโดยธรรมชาติของมัน มันต้องเป็นไปธรรมชาติของมัน มันไม่มีที่สิ้นสุดหรอก มันต้องเกิดอยู่อย่างนี้ตลอดไป

แล้วทีนี้พอมันมาเกิดอย่างนี้ มันก็ขับดันมา อะไรมันพามาเกิดตัวนี้ล่ะ?

สิ่งที่พามาเกิดนี่คือบุญกุศลพามาเกิด เราถึงได้เป็นมนุษย์อยู่นี่ แล้วถ้าเราไม่ได้เติมบุญกุศลของเราต่อไป เราใช้คุณงามความดีไปแล้ว ใช้สิ่งที่ประโยชน์หมดไปแล้ว เราจะไปไหนต่อไปถ้าเราดับตรงนี้ไป?

ถ้าเราทำคุณงามความดีของเรา คุณงามความดีเป็นของเรา เราทำคุณงามความดีของเราไว้ คุณงามความดีของเรามันสะสมลงที่ใจ นี่ทานถึงเป็นอย่างนั้น สมบัติของธรรมเราถึงหาตรงนี้ไง

สมบัติของธรรม...ธรรมเป็นคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราปรารถนาจะทำคุณงามความดีเราก็ไม่มีโอกาส อย่างคนอยู่เมืองนอกเมืองนา เห็นไหม ถึงคิดจะทำบุญบางทีเขาก็ไม่มีโอกาสได้ทำ พระถึงไปอยู่เมืองนอกกัน ส่วนใหญ่ก็ไปอยู่กับคนไทยนี่แหละ เพราะอะไร? เพราะคนไทยมีประเพณีวัฒนธรรมที่ขาดพระไม่ได้

แต่ถ้าศาสนาอื่นเขาไม่รู้เรื่องไปหรอก ถ้าศาสนาไปเผยแผ่ข้างนอก มันต้องเผยแผ่ยาก แต่ถ้าไปอยู่กับคนไทยด้วยกัน อยู่กับคนที่ว่าเขามีหลักเกณฑ์ในหัวใจ แล้วพอมันขาดแคลนขึ้นไป เขาถึงจะแสวงหา เขาขาดแคลน เขาอยากหาที่พึ่งของใจ เขาหาไม่ได้ แต่เรามันมีที่พึ่งของใจอยู่แล้ว เพราะศาสนานี่มันอยู่คู่กับเรามา ถ้าอยู่คู่กับเรามา เพราะมันมีศาสนา มันถึงมีการกระทำไง

พอการกระทำ มันถึงมีการสละออก การสละออกนี่เป็นบุญกุศลขึ้นมา ถ้าการสละออกเข้าไป เห็นไหม สละออกวัตถุมันสละออกง่าย สละออกอารมณ์ ความทุกข์ยาก สละกรรม กรรมความชั่ว ความที่เราทำคุณงามความดีไม่ได้ในหัวใจ มันจะสละออกอย่างไร? มันต้องสละออกอย่างนี้ ถ้ามันสละออกได้ ถ้าสละออกนี่มันตัดขาดเลย

พระองคุลิมาล เห็นไหม ฆ่าคนมา ๙๙๙ ศพ ทำไมเป็นพระอรหันต์ได้ขึ้นมา? ทำไมเขาสละได้?

สละได้ด้วยการภาวนาไง ถ้าจะสละด้วยภาวนานี่สำคัญที่สุด สละด้วยภาวนามันตัดขาดไป ตัดขาดในปัจจุบัน แต่นี่เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เราถึงอาศัยทาน อาศัยเจือจานออกไป ให้กรรมมันเจือจานออกไปเฉยๆ ไม่สามารถตัดขาดได้ ถ้าสามารถตัดขาดได้ มันต้องทำภาวนาขึ้นมาไง

พอมันทำภาวนา ทำความสงบของใจ มันอาศัยใจ เอาใจตัดใจไง อาศัยหัวใจเข้าไปตัดหัวใจ ถ้าอาศัยความรู้สึกของใจ มัคคอริยสัจจัง มรรคเดินตัวขึ้นไป มัคคะมันเป็นทางอันเอก มันเป็นเรื่องของนามธรรมที่มันเกิดขึ้น เราสร้างขึ้น

ถ้ามรรคอันนี้มันสร้างขึ้นมาโดยมัชฌิมาปฏิปทานะ เป็นสัมมาทิฏฐิความเห็นชอบนะ ถ้าความไม่เห็นชอบ มรรคขึ้นมารวมตัวอย่างนี้ มรรคมันไม่เห็นชอบมันจะเป็นมรรคขึ้นมาได้อย่างไร? มันเป็นมรรคขึ้นมาด้วยความคิดเฉยๆ เป็นมรรคว่าเราคิดว่าเป็นมรรค แต่มันไม่เป็นมรรคในความเป็นจริง พอไม่เป็นมรรคในความเป็นจริง มันก็ตัดขาดไม่ได้

ถึงว่าต้องเป็นมัชฌิมาปฏิปทา ต้องเป็นสัมมาด้วย เป็นสัมมาคือความถูกต้องความดีงามของธรรมอันหนึ่งที่เราสร้างขึ้นมา ใครสร้างขึ้นมาคนนั้นจะเป็นประโยชน์ขึ้นมา คนที่มีเงินเป็นล้านๆ เป็นร้อยๆ ล้านนี่ เขามีเงินขึ้นมาด้วยความถูกต้องของเขา เขาจะรักษาเงินของเขาได้ คนที่ไม่เคยมีเขาก็ เอ๊ะ... มีได้อย่างไร? มีได้อย่างไร?

อันนี้ก็เหมือนกัน ถ้ามันสร้างขึ้นมาในหัวใจขึ้นมา มันจะมีเงินมากกว่านั้นอีกเพราะอะไร? เพราะเงินไม่สามารถซื้อมรรคผลนิพพานได้ เงินเป็นเงิน มรรคผลนิพพานเป็นมรรคผลนิพพาน แต่ภาวนามยปัญญาเกิดขึ้นมา มัคคอริยสัจจังเกิดขึ้นมาในหัวใจ สิ่งนี้ต่างหากเป็นสิ่งที่ชำระกิเลส เห็นไหม ภาวนามยปัญญาในหัวใจที่มันชำระกิเลส เงินอันนี้มันถึงขึ้นมา แล้วเงินมันถูกต้อง

เงินมันถูกต้องขึ้นมาแล้วยังมัชฌิมาปฏิปทา เห็นไหม ความสมดุลไง มีเงินขึ้นมา มีความหาขึ้นมาแล้วมันไม่มีความสมดุล มันสัมมาทิฏฐิคือความถูกต้องอันหนึ่ง แล้วยังมีมัชฌิมาปฏิปทา ความสมดุลความเป็นกลาง ถ้าความสมดุลไม่เกิดขึ้น ความสมดุลไม่มี มันจะชำระกิเลสได้อย่างไร? มันชำระกิเลสไม่ได้ นั่นน่ะมรรคมันเกิดขึ้นมา มันถึงว่าทำผิดทำพลาดทำอะไรไป

พอทำผิดทำพลาดไป มันก็หมุนเวียนของมันออกไป หมุนเวียนออกไปอย่างนั้น มันไม่เข้ากับความเป็นจริง ทั้งๆ ที่หาเงิน การหาเงินนี้แสนยาก เห็นไหม การหาเงินหาทองนี้แสนยากกว่าจะได้เงินได้ทองมา แล้วได้เงินได้ทองมาใช้ประโยชน์กับชีวิตขนาดไหน?

อันนี้ก็เหมือนกัน ทำ! พยายามทำใจขึ้นมา กว่าจะสงบเข้ามาได้ ทำใจของเราขึ้นมา ความสงบขึ้นมา พอมีเงินทุนขึ้นมาแล้วมันยกขึ้นวิปัสสนา วิปัสสนานี่มรรคมันหมุนออกไป แล้วมันไม่สมดุล ความไม่สมดุลของใจมันก็แก้กิเลสไม่ได้ ความแก้กิเลสไม่ได้...ไม่มัชฌิมาปฏิปทา

มัชฌิมาปฏิปทาทางเป็นกลาง เห็นไหม อัตตกิลมถานุโยค…รุนแรงเกินไป กามสุขัลลิกานุโยค…อยู่ในความสุขมากเกินไป มันไม่ลงมัชฌิมาปฏิปทา มัชฌิมาปฏิปทาถึงเป็นประโยชน์กับศาสนา แล้วนี่สมบัติธรรมขึ้นมา เราเริ่มต้นเข้ามา

การกระทำบุญกุศลนี่ก็เหมือนกัน มันมัชฌิมาอย่างไร? ความพอใจ เราพอใจ แล้วมัชฌิมาของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนว่าทำน้อย บางคนว่าทำมาก บางคนว่าทำพอดี เห็นไหม แล้วแต่ความเห็นของบุคคล

แต่มันอยู่ที่หัวใจของคนๆ นั้นที่ทำหรอก ถ้าหัวใจมันใหญ่มันก็ทำได้มาก สิ่งที่ทำได้มากมันก็เป็นความเห็นของใจนั้น มันมัชฌิมากับใจดวงนั้น เห็นไหม สิ่งที่ทำได้น้อย อันนี้ว่าพอดีของใจดวงที่ใจน้อย มัชฌิมาของผู้ที่ว่าบารมีต่ำ บารมีอย่างกลาง บารมีอย่างเอกอุ เห็นไหม แล้วพอทำเสร็จไปแล้ว มัชฌิมาปฏิปทาไปแล้ว สิ่งนี้เป็นสิ่งที่รองรับ...

อภิญญา...อภิญญามันความเห็นถูกต้อง ความเห็นตามหูทิพย์ตาทิพย์มันมีจริงอยู่ของมันโดยธรรมชาติของมัน ถ้าหัวใจที่มีบุญบารมีอันนี้จะไปเห็น แต่ถ้าบุญบารมีของใจมันไม่มี มันก็ชำระกิเลสไปได้เฉยๆ กิเลสนี่ชำระขาดออกไปจากใจ มันตัดได้ด้วยการภาวนาของเรา สมบัติธรรมถึงประเสริฐ ประเสริฐจากตรงนี้ ตรงที่เราทำบุญกุศลมาก่อนนี่

นี่ทาน ศีล ภาวนา ให้มีทานขึ้นมาแล้วฟังธรรม ฟังธรรมขึ้นมาให้จิตผ่องแผ้ว แก้ความเห็นผิดให้ความเห็นตรง ความเห็นที่ผิดๆ ให้มันความเห็นตรง เห็นไหม สุดท้ายแล้วใจนี้สว่างไสว ความผ่องใสของใจจะเกิดขึ้นมา นี่การฟังธรรม

เราทำบุญกุศลขึ้นมาแล้วยังได้ฟังธรรมขึ้นมา ให้ธรรมะเป็นทานนี่ประเสริฐที่สุด เราให้อาหารนี่เป็นเครื่องอยู่ของร่างกาย อาหารนี่เป็นอาหารที่ร่างกายอาศัยเป็นอย่างนั้น แต่หัวใจเวลามันทุกข์ขึ้นมา อาหารเต็มตู้เย็นนะ มันก็ไม่อยากกิน มันมีความเผาลนของใจ ใจมันเผาลนของใจ มันหาอาหารไม่... (เทปสิ้นสุดเพียงเท่านี้)